เจมส์ HM
2 ปีที่แล้ว
เเอร์ฉลากเบอร์ห้า สามดาว ดีอย่างไร ประหยัดกว่าอย่างไร?

เเอร์เบอร์ห้า สามดาว ดีอย่างไร ประหยัดกว่าอย่างไร?



        เครื่องใช้ไฟฟ้าในห้างสรรพสินค้าหรือตามร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้าทั่วไป คนขายมักแนะนำว่าให้ดูที่ฉลากประหยัดไฟเบอร์ห้า พร้อมทั้งดูค่าต่าง ๆ ที่ระบุ โดยฉลากดังกล่าวนี้เป็นของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หรือ กฟผ. ที่ทำสัญลักษณ์ออกมาเพื่อให้ผู้บริโภคได้รับประโยชน์จากการซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าไปใช้งานมากที่สุด โดยกว่า 30 ชนิด จะถูกติดสติ๊กเกอร์รับรองไว้ว่าประหยัดไฟจริง


        แต่เมื่อมีการพัฒนามากขึ้นเรื่อย ๆ ในเวลานี้เพียงแค่ฉลากประหยัดไฟเบอร์ห้าอาจไม่เพียงพอ เพราะได้มีการพัฒนาจากฉลากประหยัดไฟเบอร์ห้าให้กลายเป็นฉลากประหยัดไฟเบอร์ห้าแบบใหม่พร้อมออกสู่ตลาดเป็นที่เรียบร้อยเมื่อวันที่ 1 มกราคม 2562 ซึ่งฉลากใหม่ที่ว่านี้จะเป็นการบอกค่าของการประหยัดพลังงานที่มีประสิทธิภาพมากกว่าแบบแรก เรียกว่า บอกได้ละเอียดกว่าเก่า โดยฉลากใหม่ที่ว่าจะบอกความละเอียดได้ถึง 4 อันดับ ประกอบไปด้วย เบอร์ห้า, เบอร์ห้า หนึ่งดาว, เบอร์ห้า สองดาว และ เบอร์ห้า สามดาว สังเกตง่าย ๆ คือยิ่งมีดาวเพิ่มมากขึ้นก็หมายความว่าเครื่องใช้ไฟฟ้านั้นประหยัดไฟได้มากขึ้น

 

        แล้วการเลือกซื้อแอร์ หากเลือกซื้อรุ่นที่มีฉลากเบอร์ห้า สามดาว ดีอย่างไร ? แน่นอนว่าการเลือกฉลากแบบนี้จะช่วยในเรื่องของการประหยัดค่าไฟเพิ่มมากขึ้นแบบไม่ต้องสงสัยเลย ยิ่งจำนวนดาวมากเท่าไหร่ก็จะยิ่งช่วยประหยัดค่าไฟได้มากเท่านั้น ซึ่งหากยังมีข้อสงสัยว่าประหยัดไฟได้มากน้อยแค่ไหน ก็จะขอยกตัวอย่างการเลือกซื้อเครื่องปรับอากาศที่มีระดับดาวต่างกันมาเป็นตัวอย่างให้เห็นภาพได้ชัดเจนมากขึ้น



 

       ยกตัวอย่าง การใช้งานแอร์ชื่อดังรุ่นหนึ่งขนาด 20,000 BTU ระหว่างรุ่นประหยัดไฟเบอร์ห้าธรรมดา กับ ประหยัดไฟเบอร์ห้า สามดาว จะมีค่า SEER ที่แตกต่างกัน โดยรุ่นเบอร์ห้าทั่วไปมีค่า SEER อยู่ที่ 23.07 ขณะที่รุ่นเบอร์ห้า สามดาว ค่า SEER อยู่ที่ 23.41 นั่นแสดงให้เห็นชัดเจนว่ารุ่นเบอร์ห้า สามดาว ประหยัดไฟมากกว่าหลายเท่า เนื่องจากยิ่งค่า SEER เยอะเท่าไหร่ก็จะช่วยประหยัดพลังงานได้มากเท่านั้น ทั้งนี้ขออธิบายค่า SEER ให้เข้าใจกันก่อน ค่านี้คือต้องแยกคำออกก่อน โดย EER มาจากคำว่า  Energy Efficiency Ratio หมายถึง ค่าซึ่งได้มาจากการทดสอบการทำงานของเครื่องปรับอากาศยี่ห้อและรุ่นดังกล่าว กระนั้นคำดังกล่าวก็มีข้อจำกัดบางประการเนื่องจากเมื่อมีการนำมาใช้จริงทั้งสภาพอากาศ, ฤดูกาล มันต่างกันออกไป ส่งผลให้ประสิทธิภาพจริง ๆ ที่เกิดขึ้นย่อมต่างกันไปด้วย เมื่อเป็นเช่นนี้จึงเกิดการเพิ่มตัว S ที่มาจากคำว่า Seasonal เข้าไปด้วย เมื่อรวมกันแล้ว SEER ก็มาจากคำว่า Seasonal Energy Efficiency Ratio หมายถึง ค่าวัดประสิทธิภาพเกี่ยวกับการใช้พลังงานของแอร์ที่ถูกวัดตามฤดูกาล


อีกตัวอย่าง สมมุติว่าเลือกใช้เครื่องปรับอากาศระบบอินเวอร์เตอร์ขนาด 12,000 BTU ฉลากเบอร์ห้า สามดาว มีการเปิดใช้ทุกวัน ๆ ละ 8 ชั่วโมง เปรียบเทียบกับเครื่องปรับอากาศแบบเดียวกันแต่อยู่ภายใต้ฉลากเบอร์ห้า เปิดจำนวนเท่ากัน จะมีส่วนต่างเรื่องของค่าไฟที่ถูกกว่าถึง 260 บาทต่อเดือน โดยประมาณ 


การเลือกแอร์ที่มีประสิทธิภาพสูงจะยิ่งช่วยให้เราประหยัดค่าใช้จ่ายต่าง ๆ อย่างน้อย ๆ การลดภาระบางประการ เช่น การลดค่าไฟฟ้าลง ก็จะช่วยให้มีเงินในกระเป๋าเอาไว้ใช้จ่ายสิ่งอื่นที่มีความจำเป็นได้มากกว่าเดิม การเลือกสินค้าที่มีฉลากเบอร์ห้า สามดาว ไม่เฉพาะเพียงแต่แอร์เท่านั้น แต่ยังรวมถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทอื่นด้วย 




#ฉลากเบอร์ห้า #ฉลากเบอร์ห้า สามดาว
Share
780
บทความอื่นๆ
บทความอื่นๆ