เจมส์ HM
2 ปีที่แล้ว
ฝนตกระวังไฟฟ้าดูด-ไฟรั่ว

ไฟฟ้ารั่วเราควรระวังให้มาก ซึ่งระดับความรุนแรงของไฟฟ้าดูดนั้นร้ายที่สุดก็อาจทำให้เสียชีวิตได้เลย และช่วงเวลาที่เราจะต้องระมัดระวังไฟฟ้ารั่วมากที่สุดก็คือช่วงหน้าฝน


วันนี้ houzzmate เรามาทำความเข้าใจเเละมาดูจุดที่เสี่ยง หรือจุดที่ควรระวังไฟฟ้าดูดเพื่อความปลอดภัยของชีวิตเเละทรัพย์สินของตัวท่านเอง ก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจไฟช็อต ไฟรั่ว ไฟดูด ต่างกันอย่างไร?



ไฟฟ้าลัดวงจร หรือไฟช็อต : เกิดจากการที่กระแสไฟฟ้าไหลผ่านจากสายไฟเส้นหนึ่งไปยังเส้นอื่น ๆ โดยที่ไม่ได้ผ่านอุปกรณ์โหลด หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าใด ๆ เลย สาเหตุที่พบส่วนใหญ่แล้วเกิดจากการที่ฉนวนของตัวสายไฟชำรุด หรือเกิดการแตะกันโดยบังเอิญ


ไฟรั่ว : เกิดจากการที่กระแสไฟฟ้าเกิดการรั่วไหลจากวงจรไฟฟ้าไปยังส่วนโลหะของอุปกรณ์ที่ใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นตู้เย็น แอร์ พัดลม เครื่องซักผ้า ทีวี เป็นต้น ซึ่งเกิดจากการเสื่อมสภาพของอุปกรณ์ รวมถึงการเดินสายไฟที่ไม่ได้มาตรฐานอีกด้วย


ไฟดูด : คือ การสัมผัสกับกระแสไฟฟ้า ทำให้กระแสไฟฟ้าไหลผ่านร่างกายลงสู่พื้นดิน เช่น การสัมผัสกับสายไฟที่มีไฟรั่ว ซึ่งอันตรายมาก และอาจถึงชีวิตได้เลยนะ


เรามาดูจุดที่เสี่ยงกันครับ


1. เสาไฟฟ้าหน้าบ้าน

เริ่มกันที่จุดเสี่ยงที่เกิดไฟรั่วมากที่สุดอย่าง “เสาไฟหน้าบ้าน” ซึ่งบริเวณนี้ถือว่าเป็นพื้นที่เสี่ยงเนื่องจากในยามที่ไฟฟ้ารั่วเราอาจจะไม่สามารถเห็นได้ด้วยตาเปล่าว่ากระแสไฟฟ้ากำลังรั่ว ดังนั้นข้อความระวังก็คือช่วงฝนตกหรือยามที่ตัวเราเปียก ควรจะหลีกเลี่ยงการอยู่ในบริเวณเสาไฟ-ใต้เสาไฟฟ้ หม้อเเปลงที่ฝนตกเพื่อความปลอดภัยของตัวท่านเอง


2. กริ่งประตูบ้าน

อีกจุดของบ้านที่ควรระวังไว้ก็คือ “กริ่งประตู” เนื่องจากจุดกริ่งประตูเป็นอีกจุดหนึ่งที่ผู้อยู่อาศัยส่วนใหญ่มักจะขาดความสนใจโดยเฉพาะหน้าฝน โดยน้ำฝนอาจซึมเข้าไปที่เเผงของสวิตช์ได้ เมื่อไปกดก็อาจถูกไฟดูดได้เช่นกันครับ หากต้องใช้ไฟฟ้า 220 โวลต์ กริ่งประตูเราดูเเลรักษาหรือหาที่กั้นให้พ้นจากฝน เเละที่เเนะนำควรหลีดเลี่ยงการใช้ไฟ 220 โวลต์ ควรใช้ชนิดที่มีหม้อแปลงลดแรงดันเหลือเพียง 8 – 12 โวลต์ เพื่อความปลอดภัย โดยการกดสวิตช์กริ่งประตูหรือสวิตช์ทุกชนิด ควรใช้หลังนิ้วกดหรือเคาะ เพราะหากเกิดมีไฟรั่วกล้ามเนื้อจะกระตุกหดกลับ หลุดออกจากจุดสัมผัสนั้น จะปลอดภัยกว่าปกติครับ


3. โคมไฟสนาม

เราขอเสนออีกจุดที่ไม่ควรปล่อยปละละเลยก็คือ “โคมไฟสนาม” เนื่องจากส่วนใหญ่ที่เรามักจะติดตั้งโคมไฟสนามเพื่อตกเเต่งสวนไว้มักเป็นจุดที่เด็กๆ วิ่งเล่น หรือมีสมาชิกครอบครัวเดินผ่านอยู่บ่อยครั้ง ดังนั้นในช่วงหน้าฝนเพื่อป้องกันกระแสไฟฟ้ารั่ว เราควรหมั่นดูแลตรวจสอบสภาพของฉนวนให้ดีอยู่เสมอ ควรดูจุดต่อสาย จุดเข้าสายไฟเเละ ควรต่อสายลงดินเพื่อป้องกันการรั่วที่อาจเกิดขึ้นโดยที่เราไม่รู้ตัว เพื่อความปลอดภัยของสมาชิกภายในบ้าน


4. ปั๊มน้ำ

และอีกจุดที่ถือเป็นจุดเสี่ยงเกิดกระแสไฟฟ้ารั่วมากเช่นกันก็คือ “ปั๊มน้ำ” นั่นเองครับ โดยปกติแล้วจุดติดตั้งปั๊มน้ำมักถูกละเลย แต่จุดนี้ถือเป็นจุดที่อันตรายมากหากเกิดกระแสไฟฟ้ารั่ว โดยเฉพาะหน้าฝน ดังนั้นเราต้องไม่ลืมที่จะต่อสายดินที่จุดปลั๊กไฟเด็ดขาด และหากกรณีจำเป็นที่เราจะต้องลงไปในน้ำ ต้องไม่ลืมที่จะถอดปลั๊กไฟออกก่อนทุกครั้งเพื่อความปลอดภัยครับ




วิธีการง่ายๆในการตรวจเช็คที่ทำเองได้ หากไม่มั่นใจควรเเจ้งให้ช่างมาดำเนินการ

เราควรหมั่นตรวจสอบอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า วิธีง่ายๆ คือการใช้ไขควงไฟฟ้าแตะที่ตัวโลหะของเครื่องใช้ไฟฟ้า หากมีแสงไฟติด แสดงว่ามีไฟฟ้ารั่ว ให้หยุดใช้งานในทันที หมั่นตรวจสอบอุปกรณ์เต้ารับไฟฟ้าภายในบ้าน ตามจุดต่าง ๆ หากสังเกตว่ามีการชำรุดเสียหาย ควรเปลี่ยนใหม่ ตรวจเช็คสายไฟ โดยเฉพาะสายไฟที่ซ่อนตามจุดต่าง ๆ เพราะอาจจะมีการเสื่อมสภาพ โดยเริ่มจากการปิดสวิตซ์ ถอดปลั๊กอุปกรณ์ และเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกจุด และให้สังเกตที่มิเตอร์ หากมีการหมุนอยู่แสดงว่ามีกระแสไฟรั่วอยู่


#ไฟฟ้า #ช่างไฟฟ้า #ไฟฟ้าดูด #ไฟฟ้าช๊อต #ไฟฟ้ารัดวงจร
Share
1236
บทความอื่นๆ
บทความอื่นๆ